วันศุกร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2562

 บินตรงจาการ์ต้า ทัวร์ 10 ที่เที่ยวเมืองหลวงอินโดนีเซีย                 10.ถือเป็นอีกเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และสีสันทางวัฒนธรรมสำหรับกรุงจาการ์ตา แม้จะไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวหวือหวาแต่ความเรียบง่ายนี่แหละที่เป็นเสน่ห์และเหมาะแก่การเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอย่างแม้จริง และสำหรับใครที่พาลูก ๆ หรือเด็กน้อยไปด้วยก็อย่าลืมแวะมาที่ Kidzania สวนสนุกที่เต็มไปด้วยสาระความรู้ที่เด็ก ๆ จะเพลิดเพลินไปกับจินตนาการในโลกสร้างสรรค์ ที่ซึ่งพวกเขาจะสามารถปลดปล่อยความคิดได้อย่างอิสระ ด้านแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติซึ่งเป็นที่นิยม ได้แก่ หมู่เกาะพันเกาะ (Thousand Islands) ที่ประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยให้คุณสนุกกับกิจกรรมทางน้ำที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีเมืองเก่า จาการ์ตา โอลด์ ทาวน์, จัตุรัส Fatahillah และจัตุรัส Merdeka ที่แสดงให้เห็นสถาปัตยกรรมอันงดงามสมัยล่าอาณานิคม อีกทั้งยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์สำคัญในอดีตด้วย
 สระว่ายน้ำลอยฟ้า Marina Bay Sands ชมวิวสิงคโปร์ทั้งเมือง              9.เมืองสุดล้ำอย่างสิงคโปร์เต็มไปด้วยแหล่งกิน เที่ยว ช้อปมากมาย เริ่มกันตั้งแต่แลนด์มาร์กสุดฮิตอย่าง โรงแรมมารีน่า เบย์ แซนด์ส ที่มีไฮไลท์เด็ดอยู่ที่สระว่ายน้ำลอยฟ้าที่จะทำให้คุณเห็นสิงคโปร์ทั้งเมืองเลย นอกจากนี้ยังมี Singapore Flyer ชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ที่จะพาคุณเพลิดเพลินไปกับวิวอันสวยงาม และที่พลาดไม่ด้วยประการทั้งปวงเลย คือ รีสอร์ท เวิลด์ เซ็นโตซ่า ที่มีทั้งโซน Universal Studio Singapore, สวนน้ำ, กาสิโน, พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และเครื่องเล่นมากมาย สำหรับขาช้อปทั้งหลายก็มากันได้ที่ถนนออร์ชาร์ด (Orchard Road) ที่นอกจากจะมีสินค้าละลานตา อีกทั้งในช่วงค่ำคืนยังเต็มไปด้วยสถานบันเทิงและคาเฟ่สำหรับนั่งดื่มชิล ๆ ด้วย
 10 สถานที่ท่องเที่ยวในเวียดนาม ถ้าพลาดแล้วจะเสียใจ 8.ฮานอยเป็นเมืองหลวงอันเก่าแก่ของเวียดนาม ซึ่งแม้กาลเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแต่วิถีชีวิตความเป็นอยู่ รวมทั้งสิ่งปลูกสร้างบางอย่างยังคงไว้เช่นเดิม มันจึงเป็นเมืองที่มีเสน่ห์และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ซึ่งคุณจะได้พบกับพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ที่มีโบราณวัตถุที่หาดูได้ยาก หรือจะเป็นตลาดดงซวน (Dong Xuan) ที่มีสินค้าและของที่ระลึกมากมายให้คุณได้เลือกซื้อ ซึ่งนอกจากที่เที่ยวในเมืองแล้ว ยังมีอีกหนึ่งสถานที่ซึ่งถือเป็นอันซีนฮานอยเลยก็ว่าได้ สำหรับเขตเมืองเก่าที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายบนถนนสายเล็ก ๆ ที่มีตึกรามบ้านช่องนับร้อยหลัง ที่สำคัญยังได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมยุคล่าอาณานิคมด้วย และตึกเหล่านี้ยังเป็นทั้งที่อยู่อาศัยและร้านค้าเล็ก ๆ ภายในตัว ถือเป็นภาพสะท้อนวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ ที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคสมัยทุกอย่างยังคงไว้เช่นเดิม
10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต มนต์เสน่ห์เมืองลาว           7.ลาว ประเทศเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเฉพาะในเวียงจันทน์ เมืองหลวงของประเทศลาวที่เต็มไปด้วยอารยธรรมเก่าแก่และน่าสนใจ เริ่มกันที่ประตูชัย เอกลักษณ์สำคัญของลาวที่บ่งบอกถึงการเป็นอิสรภาพไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของใคร โดยเลียนแบบประตูชัยฝรั่งเศสแต่ใช้ศิลปะแบบลาว ต่อกันที่หอพระแก้ว ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์และมีของที่ระลึกขายอยู่มากมาย และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ พระธาตุหลวง องค์พระธาตุขนาดใหญ่สีทองอร่ามที่มีเจดีย์ขนาดเล็กตั้งรายล้อมอยู่รอบด้าน และชาวลาวยังเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวลาวอีกด้วย ส่วนใครที่กำลังมองหาแหล่งช้อปปิ้งก็มากันได้ที่ตลาดเช้าเวียงจันทน์ ศูนย์กลางการค้าขายของเวียงจันทน์ที่มีสินค้าครอบคลุมทุกอย่าง นอกจากนี้ยังมีตลาดคัวดิน, ตลาดทุ่งขันคำ และตลาดจีน ที่ซึ่งคุณจะได้ช้อปของดีราคาถูกติดไม้ติดมือกลับบ้านหรือเป็นของฝากได้ด้วย
 10 เมืองยอดฮิตที่ต้องไปเยือนในปี 2014                                                                                                   6.เมืองหลวงของประเทศมาเลเซียอย่างกัวลาลัมเปอร์ ถือเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทั้งทางด้านวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรม ตึกแฝดเปโตรนาส (Petronas Twin) คือ ที่ซึ่งเหมาะกับการชมวิวทิวทัศน์ในยามราตรี การได้มองเห็นกัวลาลัมเปอร์ในมุมสุดหวาดเสียวคือสิ่งท้าทายไม่น้อย และไม่ไกลกันนักคุณจะพบกับสวนสาธารณะ KLCC Park ซึ่งเป็นสวนสาธารณะใจกลางกัวลาลัมเปอร์ที่พูดได้เลยว่าเป็นเสมือนปอดของคนเมืองนั่นเอง และสำหรับใครที่อยากช้อปสินค้าหลากหลายทั้งของเก่าหรือของหายาก Central Market คือ ที่ซึ่งคุณต้องมาเยือน ที่นี่จะมีทั้งของที่ระลึก สินค้าแฮนด์แมด เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ไว้เอาใจขาช้อปโดยเฉพาะ และทางด้านหลังของตลาดแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ The Annexe Gallery โดยจะมีการจัดนิทรรศการภาพวาดศิลปะและการฉายภาพยนตร์ด้วยค่ะ
 เยือน 10 เมืองหลวงอาเซียน สัมผัสแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจ                        5.กรุงมะนิลา ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของอ่าวมะนิลา (Manila Bay) บนเกาะลูซอนซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดและตั้งอยู่ทางเหนือสุดของประเทศฟิลิปปินส์ แน่นอนเลยว่ามันโดดเด่นเรื่องท้องทะเลและเกาะต่าง ๆ ที่ซึ่งคุณจะเพลิดเพลินไปกับน้ำทะเลใส ๆ, ภูเขาไฟขนาดเล็กที่สุดในโลก, ทะเลสาบ และยังมีกิจกรรมปีนเขาวัดใจนักท่องเที่ยวที่รักความท้าทายอีกด้วย เรียกว่าหากคุณอยากพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติในต่างแดนละก็ กรุงมะนิลาก็เป็นไอเดียที่ดีแถมยังอยู่ไม่ไกลบ้านเราด้วย นอกจากนี้ยังมีสถานที่น่าสนใจ ได้แก่ วิหารกรุงมะนิลา (Manila Cathedral) ที่มีลักษณะคล้ายกับสถาปัตยกรรมสไตล์โรมัน, สวน Rizal สวนสาธารณะซึ่งมีอนุสาวรีย์บุคคลสำคัญของฟิลิปปินส์ตั้งอยู่ และย่านไชน่าทาวน์ของกรุงมะนิลายังคลาคล่ำไปด้วยของกินและสินค้ามากมาย
  เยือน 10 เมืองหลวงอาเซียน สัมผัสแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจ                    4.เนปิดอว์ เมืองหลวงแห่งใหม่ของพม่าอยู่ห่างจากย่างกุ้งซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่า 391 กิโลเมตร และ 302  กิโลเมตร จากมัณฑะเลย์ มันจึงเป็นเสมือนศูนย์กลางการท่องเที่ยวของพม่าที่ผู้คนต้องสัญจรผ่านไป-มา และก็อดไม่ได้ที่จะเชยชมกับสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ได้แก่ มหาเจดีย์อุปปาตสันติ (Uppatasanti) องค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่จำลองแบบมาจากมหาเจดีย์ชเวดากองในย่างกุ้ง นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญอย่าง อนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์ ผู้ยิ่งใหญ่ของประเทศพม่า, อาคารรัฐสภาอันโอ่อ่า ซึ่งเป็นการการันตีว่าพม่าพร้อมจะเปิดประเทศเพื่อต้อนรับการขยายของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และความเจริญด้านอื่น ๆ มากขึ้น และถึงแม้ว่าสถานที่ท่องเที่ยวในเนปิดอว์จะไม่โด่งดังเท่าพุกามหรือย่างกุ้ง แต่เชื่อว่าหากประชาคมอาเซียนเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว มันจะเป็นที่เที่ยวแห่งใหม่ที่จะพาทุกคนไปสัมผัสกับพม่ายุคใหม่มากยิ่งขึ้น
 ท่อง 10 ที่เที่ยวบรูไน เมืองเล็ก ๆ ที่มั่งคั่งด้วยอารยธรรม     3.บรูไน คือหนึ่งในประเทศอันมั่งคั่ง ทางด้านสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นเรื่องสถาปัตยกรรมมากมาย เริ่มกันที่พิพิธภัณฑ์รอยัลเรกกาเลีย (Royal Regalia Museum) ที่ซึ่งรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ของสุลต่านองค์ปัจจุบัน ทั้งฉลองพระองค์, เครื่องทรงทองคำ, อาวุธ และเครื่องราชบรรณาการจากประเทศต่าง ๆ ที่มีความวิจิตรงดงาม ต่อกันที่มัสยิดทองคำ มัสยิดที่ยิ่งใหญ่และอลังการที่สุดในประเทศบรูไน ใครที่ชอบช้อปปิ้งก็มากันได้ที่ Yayasan Sultan Haji Hassanal Bolkiah Complex และ Gadong Shopping Mall ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีสินค้าน่าสนใจมากมายหลากหลายราคา เช่น สินค้าพื้นเมือง, ของโบราณ ไปจนถึงคริสตัลและเครื่องประดับราคาแพง
เยือน 10 เมืองหลวงอาเซียน สัมผัสแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจ2.กัมพูชา ประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่มีพนมเปญเป็นเมืองหลวง ที่สำคัญยังเต็มไปด้วยโบราณสำคัญมากมาย ได้แก่ วัดพนม ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมือง, อนุสาวรีย์อิสรภาพ (Independence Monument) ที่ก่อสร้างในปี ค.ศ. 1958 เพื่อประกาศชัยชนะเหนือการควบคุมจากฝรั่งเศส ซึ่งมีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นสง่า ที่สำคัญยังเป็นสถานที่ซึ่งแสดงว่าคุณมาถึงพนมเปญแล้ว นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพนมเปญ, หอประชุมจัตุรมุข, รอยัล พาเลซ ซึ่งสถานที่เหล่านี้นอกจากจะงดงามด้านสถาปัตยกรรมแล้ว ยังมีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์อีกด้วย สำหรับแหล่งช้อปปิ้งที่น่าสนใจ ได้แก่ ตลาดเก่า (Phsar Chas) ศูนย์รวมสินค้าท้องถิ่นพนมเปญ และตลาด Orussey ซึ่งเป็นตลาดยอดนิยมของนักเที่ยว ซึ่งมีครบทั้งของกิน ของที่ระลึก และของสด
 10 จังหวัดน่าเที่ยวในประเทศไทย ตามมุมมองของชาวต่างชาติ 1.กรุงเทพฯ เมืองศิวิไลซ์ ดินแดนที่เต็มไปด้วยที่เที่ยวน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอารามอย่าง วัดพระแก้ว, วัดแจ้ง, วัดโพธิ์ ฯลฯ ที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย นอกจากนี้ยังมีย่านของกินชื่อดังอยู่ทั่วทุกมุม ด้านแสงสียามค่ำคืนก็เป็นที่ดึงดูดของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นย่านสุขุมวิท สีลม หรือถนนข้าวสาร และสำหรับขาช้อปก็ไม่ต้องห่วงเลย มีตั้งแต่ของแบรนด์เนมย่านสยามใจกลางกรุงเทพฯ หรือจะเป็นของถูกของดีย่านสำเพ็ง ที่สำคัญเรื่องอาหารการกินก็เด็ดจนมัดใจนักท่องเที่ยว ทั้ง ผัดไทย ส้มตำ ต้มยำ แกงเขียวหวาน ฯลฯ ที่ต่างชาติต้องพากันยกนิ้วให้
อร่อยล้ำกับเมนูเด็ดของ  10 ประเทศอาเซียน                                                                       10.ประเทศเวียดนาม 

          เปาะเปี๊ยะเวียดนาม  (Vietnamese Spring Rolls) ถือเป็นหนึ่งในอาหารพื้นเมืองที่โด่งดังที่สุดของประเทศเวียดนาม ความอร่อยของเปาะเปี๊ยะเวียดนาม อยู่ที่การนำแผ่นแป้งซึ่งทำจากข้าวจ้าวมาห่อไส้ ซึ่งอาจจะเป็นไก่ หมู กุ้ง หรือหมูยอ โดยนำมารวมกับผักสมุนไพรอีกหลายชนิด เช่น สะระแหน่ ผักกาดหอม และนำมารับประทานคู่กับน้ำจิ้มหวาน โดยจะมีถั่วคั่ว แครอทซอย ไชเท้าซอย ให้เติมตามใจชอบ และบางครั้งอาจมีเครื่องเคียงอย่างอื่นเพิ่มด้วย  
อร่อยล้ำกับเมนูเด็ดของ  10 ประเทศอาเซียน                                9.ประเทศมาเลเซีย

          นาซิ เลอมัก (Nasi Lemak) อาหารยอดนิยมของประเทศมาเลเซีย โดยนาซิ เลอมัก จะเป็นข้าวหุงกับกะทิ และใบเตย ทานพร้อมเครื่องเคียง 4 อย่าง ได้แก่ ปลากะตักทอดกรอบ แตงกวาหั่น  ไข่ต้มสุก และถั่วอบ ซึ่งนาซิ เลอมักแบบดั้งเดิมจะห่อด้วยใบตอง และมักทานเป็นอาหารเช้า แต่ในปัจจุบัน กลายเป็นอาหารยอดนิยมที่ทานได้ทุกมื้อ และแพร่หลายในประเทศเพื่อนบ้านอีกหลายแห่ง เช่น สิงคโปร์ และภาคใต้ของไทยด้วย
อร่อยล้ำกับเมนูเด็ดของ  10 ประเทศอาเซียน                                                                 8. ประเทศลาว 

          สลัดหลวงพระบาง (Luang Prabang Salad) เป็นอาหารขึ้นชื่ออีกชนิดหนึ่ง เนื่องจากมีรสชาติกลาง ๆ ทำให้รับประทานได้ทั้งชาวตะวันออก และตะวันตก โดยส่วนประกอบสำคัญคือ ผักน้ำ ซึ่งเป็นผักป่าที่ขึ้นตามริมธารน้ำไหล และยังมีส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น  มันแกว แตงกวา มะเขือเทศ ไข่ต้ม ผักกาดหอม และหมูสับลวกสุก ส่วนวิธีปรุงรสคือ ราดด้วยน้ำสลัดชนิดใส คลุกส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน แล้วโรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว และถั่วลิสงคั่ว
อร่อยล้ำกับเมนูเด็ดของ  10 ประเทศอาเซียน                                                                            7.ประเทศอินโดนีเซีย

          กาโด กาโด (Gado Gado) อาหารยอดนิยมของประเทศอินโดนีเซีย ประกอบไปด้วยผัก และธัญพืชหลากหลายชนิด  ทั้งแครอท มันฝรั่ง กะหล่ำปลี ถั่วงอก ถั่วเขียว นอกจากนี้ยังมีเต้าหู้ และไข่ต้มสุกด้วย กาโด กาโดจะนำมารับประทานกับซอสถั่วที่คล้ายกับซอสสะเต๊ะ อย่างไรก็ตาม ด้วยเครื่องสมุนไพรในซอส อาทิ รากผักชี หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ ทำให้เมื่อรับประทานแล้วจะไม่รู้สึกเลี่ยนกะทิมากจนเกินไปนั่นเอง
อร่อยล้ำกับเมนูเด็ดของ  10 ประเทศอาเซียน                              6.ประเทศสิงคโปร์

          ลักซา (Laksa) อาหารขึ้นชื่อของประเทศสิงคโปร์ ลักซามีลักษณะคล้ายก๋วยเตี๋ยวต้มยำใส่กะทิ ทำให้รสชาติเข้มข้น คล้ายคลึงกับข้าวซอยของไทย โดยลักซาจะมีส่วนผสมของ กุ้งแห้ง พริก กุ้งต้ม และหอยแครง เหมาะสำหรับคนที่ชอบรับประทานอาหารทะเลเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ลักซามีทั้งแบบที่ใส่กะทิ และไม่ใส่กะทิ ทว่า แบบที่ใส่กะทิจะเป็นที่นิยมมากกว่า
อร่อยล้ำกับเมนูเด็ดของ  10 ประเทศอาเซียน                                        5.ประเทศฟิลิปปินส์

          อโดโบ้ (Adobo) เป็นอาหารยอดนิยมของประเทศฟิลิปปินส์ ทำจากเนื้อหมู หรือเนื้อไก่ ที่ผ่านการหมัก และปรุงรส โดยจะใส่น้ำส้มสายชู ซีอิ๊วขาว กระเทียมสับ ใบกระวาน พริกไทยดำ นำไปทำให้สุกโดยอบในเตาอบ หรือทอด แล้วนำมารับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ

          ในอดีตอาหารจานนี้เป็นที่นิยมในหมู่นักเดินทาง เนื่องจากส่วนผสมของอโดโบ้สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน เหมาะสำหรับพกไว้เป็นเสบียงอาหารระหว่างการเดินทาง ซึ่งปัจจุบันอโดโบ้ได้กลายเป็นอาหารยอดนิยมที่นำมารับประทานกันได้ทุกที่ทุกเวลา
อร่อยล้ำกับเมนูเด็ดของ  10 ประเทศอาเซียน                                4.ประเทศพม่า

          หล่าเพ็ด (Lahpet) เป็นอาหารยอดนิยมของพม่า โดยการนำใบชาหมักมาทานกับเครื่องเคียง เช่น กระเทียมเจียว ถั่วชนิดต่าง ๆ งาคั่ว กุ้งแห้ง ขิง มะพร้าวคั่ว เรียกได้ว่า มีลักษณะคล้ายคลึงกับเมี่ยงคำของประเทศไทย ซึ่งหล่าเพ็ดนี้ จะเป็นเมนูอาหารที่ขาดไม่ได้ในโอกาสพิเศษหรือเทศกาลสำคัญ ๆ ของประเทศพม่า โดยกล่าวกันว่า หากงานเลี้ยง หรืองานเฉลิมฉลองใด ไม่มีหล่าเพ็ด จะถือว่าการนั้นเป็นงานที่ขาดความสมบูรณ์ไปเลยทีเดียว
อร่อยล้ำกับเมนูเด็ดของ  10 ประเทศอาเซียน                   3.ประเทศบรูไน

          อัมบูยัต (Ambuyat) เป็นอาหารยอดนิยมของบรูไน มีลักษณะเด่นอยู่ที่ตัวแป้งจะเหนียวข้นคล้ายข้าวต้ม หรือโจ๊ก โดยมีแป้งสาคูเป็นส่วนผสมหลัก ตัวแป้งอัมบูยัตเอง ไม่มีรสชาติ แต่ความอร่อยจะอยู่ที่การจิ้มกับซอสผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว นอกจากนี้ยังมีเครื่องเคียงอีก 2-3 ชนิด เช่น ผักสด เนื้อห่อใบตองย่าง หรือเนื้อทอด  ทั้งนี้ การรับประทานอัมบูยัตให้ได้รสชาติ ต้องรับประทานตอนร้อน ๆ จึงจะดีที่สุด
อร่อยล้ำกับเมนูเด็ดของ  10 ประเทศอาเซียน       2.ประเทศกัมพูชา

          อาม็อก (Amok) เป็นอาหารคาวยอดนิยมของกัมพูชา มีลักษณะคล้ายห่อหมกของไทย โดยเป็นการนำเนื้อปลาสด ๆ ลวกพริกเครื่องแกง และกะทิ แล้วทำให้สุกโดยการนำไปนึ่ง ซึ่งนอกจากจะใช้เนื้อปลาแล้ว อาจเลือกใช้เนื้อไก่แทนก็ได้ ส่วนสาเหตุที่คนในประเทศกัมพูชานิยมรับประทานปลา เนื่องจากสภาพภูมิประเทศของกัมพูชามีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ ทำให้ปลาเป็นอาหารที่หารับประทานได้ง่ายนั่นเอง
1.ประเทศไทย 

          ต้มยำกุ้ง (Tom Yam Goong)  แค่เอ่ยชื่อก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ต้มยำกุ้งเป็นอาหารคาวที่เหมาะสำหรับรับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ กลิ่นหอมของสมุนไพรที่เป็นส่วนประกอบในต้มยำกุ้ง นอกจากจะทำให้รู้สึกสดชื่นแล้ว ยังช่วยกระตุ้นการเจริญอาหารได้เป็นอย่างดี

          และเนื่องจากต้มยำกุ้งเป็นอาหารที่มีรสเปรี้ยว และเผ็ดเป็นหลัก ทำให้รับประทานแล้วไม่เลี่ยน จึงทำให้ต้มยำกุ้งเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในทั่วทุกภาคของประเทศไทย รวมถึงชาวต่างชาติเองก็ติดอกติดใจในความอร่อยของต้มยำกุ้งเช่นเดียน     อร่อยล้ำกับเมนูเด็ดของ  10 ประเทศอาเซียน

วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

10. สหภาพพม่า (Union of Myanmar) : ดอกประดู่

          ดอกไม้ประจำชาติพม่า คือ ดอกประดู่ (Paduak) เป็นดอกไม้ที่พบมากในประเทศพม่า มีสีเหลืองทอง ผลิดอกและส่งกลิ่นหอมในฤดูฝนแรก ช่วงเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ประเทศพม่ามีการเฉลิมฉลองปีใหม่ ขึ้น ชาวพม่าเชื่อว่าดอกประดู่คือสัญลักษณ์ของความแข็งแรง ความทนทาน และเป็นดอกไม้ที่ขาดไม่ได้ในพิธีทางศาสนาของชาวพม่าเลยล่ะ

          รู้จักกันไปแล้วสำหรับดอกไม้ประจำชาติอาเซียนทั้ง 10 ชาติ ที่หลายดอกก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดีและเคยเห็นในประเทศไทยอยู่บ้าง หากพบเจอเพื่อนร่วมประชาคมอาเซียนที่แวะมาเยี่ยมเยียนเมืองไทยแล้วล่ะก็ ลองมอบดอกไม้เหล่านี้ให้เพื่อเป็นการต้อนรับ ก็คงจะสร้างความปลื้มใจให้ไม่น้อยอยู่เหมือนกันนะ
           10 ดอกไม้ประจำชาติอาเซียน มีอะไรบ้าง...มาดูกัน
10 ดอกไม้ประจำชาติอาเซียน มีอะไรบ้าง...มาดูกัน                         9. สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (The Socialist Republic of Vietnam) : ดอกบัว

          ดอกไม้ประจำชาติเวียดนาม เป็นดอกไม้ที่คนไทยคุ้นเคยอย่าง ดอกบัว (Lotus) เป็นดอกไม้ประจำชาติ โดยดอกบัวเป็นที่รู้จักกันในนาม "ดอกไม้แห่งรุ่งอรุณ" เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ ความผูกพัน และการมองโลกในแง่ดี ดอกบัวจึงมักถูกกล่าวถึงในบทกลอนและเพลงพื้นเมืองของชาวเวียดนามอยู่บ่อย ครั้ง

8. ราชอาณาจักรไทย (Kingdom of Thailand) : ดอกราชพฤกษ์

          ดอกไม้ประจำชาติไทย คือ ดอกราชพฤกษ์ (Ratchaphruek) ที่มีสีเหลืองสวยสง่างาม เมื่อเบ่งบานแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่น ถือเป็นสัญลักษณ์ของความมีเกียรติยศศักดิ์ศรี ซึ่งชาวไทยหลายคนรู้จักกันดีในนามของ ดอกคูน โดยมีความเชื่อว่าสีเหลืองอร่ามของดอกราชพฤกษ์คือสีแห่งพระพุทธศาสนาและความ รุ่งโรจน์ รวมทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีปรองดองของคนในชาติอีกด้วย โดยดอกราชพฤกษ์จะเบ่งบานในช่วงเดือนกุมภาพันธ์–พฤษภาคม มีจุดเด่นเวลาเบ่งบานคือการผลัดใบออกจนหมดต้น เหลือไว้เพียงแค่สีเหลืองอร่ามของดอกราชพฤกษ์เท่านั้น
10 ดอกไม้ประจำชาติอาเซียน มีอะไรบ้าง...มาดูกัน
7. สาธารณรัฐสิงคโปร์ (Republic of Singapore) : ดอกกล้วยไม้แวนด้า

          ดอกไม้ประจำชาติสิงคโปร์ คือ ดอกกล้วยไม้แวนด้า (Vanda Miss Joaquim) เป็นดอกไม้ประจำชาติ โดยดอกกล้วยไม้แวนด้าตั้งชื่อตามผู้ผสมพันธุ์ คือ Miss Agnes Joaquim จัดเป็นดอกกล้วยไม้ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในประเทศสิงคโปร์ มีสีม่วงสดสวยงามและเบ่งบานอยู่ตลอดทั้งปี โดยถูกจัดให้เป็นดอกไม้ประจำชาติสิงคโปร์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524)10 ดอกไม้ประจำชาติอาเซียน มีอะไรบ้าง...มาดูกัน
6. สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (Republic of the Philippines) : ดอกพุดแก้ว

          ดอกไม้ประจำชาติฟิลิปปินส์ คือ ดอกพุดแก้ว (Sampaguita Jasmine) ดอกมีสีขาวกลีบดอกเป็นรูปดาว มีกลิ่นหอม บานส่งกลิ่นในตอนกลางคืน ถือเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ เรียบง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน รวมถึงความเข้มแข็งอีกด้วย เคยถูกนำมาใช้เฉลิมฉลองในตำนานเรื่องเล่ารวมทั้งบทเพลงของฟิลิปปินส์ด้วย เช่นกัน

10 ดอกไม้ประจำชาติอาเซียน มีอะไรบ้าง...มาดูกัน
5. ประเทศมาเลเซีย (Malaysia) : ดอกพู่ระหง

          ดอกไม้ประจำชาติมาเลเซีย เป็น ดอกพู่ระหง (Bunga Raya) ในภาษาท้องถิ่นเรียกกันว่า บุหงารายอ หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ ดอกชบาสีแดง ลักษณะกลีบดอกเป็นสีแดง มีเกสรยื่นยาวออกมาเหนือดอก ซึ่งถูกจัดให้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศมาเลเซีย เพื่อเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นและความอดทนในชาติ โดยเชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมให้สูงส่งและสง่างาม รวมทั้งยังสามารถนำไปใช้ในทางการแพทย์และความงามได้อีกด้วย
         10 ดอกไม้ประจำชาติอาเซียน มีอะไรบ้าง...มาดูกัน
  4. สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Lao People's Democratic Republic) : ดอกจำปาลาว

          ดอกไม้ประจำชาติลาว คือ ดอกจำปาลาว (Dok Champa) คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ ดอกลีลาวดี หรือ ดอกลั่นทม โดยดอกจำปาลาวมักมีสีสันหลากหลาย ไม่เฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นเพียงสีขาวเท่านั้น เช่น สีชมพู สีเหลือง สีแดง หรือสีโทนอ่อนต่าง ๆ โดยดอกจำปาลาวนั้นเป็นตัวแทนของความสุขและความจริงใจ จึงนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อประดับประดาในงานพิธีต่าง ๆ รวมทั้งใช้เป็นพวงมาลัยเพื่อรับแขกอีกด้วย

3. สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (Republic of Indonesia) : ดอกกล้วยไม้ราตรี

          ดอกไม้ประจำชาติอินโดนีเซีย คือ ดอกกล้วยไม้ราตรี (Moon Orchid) ซึ่งเป็นหนึ่งในดอกกล้วยไม้ที่บานอยู่ได้นานที่สุด โดยช่อดอกนั้นสามารถแตกกิ่งและอยู่ได้นาน 2-6 เดือน โดยดอกจะบานแค่ปีละ 2-3 ครั้งเท่านั้น ทั้งนี้ดอกกล้วยไม้ราตรีสามารถเจริญเติบโตได้ดีในอากาศชื้น จึงพบเห็นได้ง่ายในพื้นที่ราบต่ำของประเทศอินโดนีเซีย
2. ราชอาณาจักรกัมพูชา (Kingdom of Cambodia) : ดอกลำดวน

          ดอกไม้ประจำชาติกัมพูชา เป็น ดอกลำดวน (Rumdul) ดอกไม้สีขาวปนเหลืองนวล กลีบดอกหนาทึบและแข็งเล็กน้อย มีกลิ่นหอมเย็นแบบกรุ่น ๆ ถูกจัดเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งเพราะมีความหมายถึงความสดชื่นหอมกรุ่น และเป็นดอกไม้สำหรับสุภาพสตรี วิธีปลูกที่ถูกต้อง ต้องปลูกไว้ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือของตัวบ้าน ที่สำคัญต้องปลูกในวันพุธด้วยนะ

1. บรูไนดารุสซาลาม (Negara Brunei Darussalam) : ดอกซิมปอร์

          ดอกไม้ประจำชาติบรูไน ก็คือ ดอกซิมปอร์ (Simpor) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ดอกส้านชะวา (Dillenia) ดอกไม้ประจำท้องถิ่นบรูไน ที่มีกลีบขนาดใหญ่สีเหลือง หากบานเต็มที่แล้วกลีบดอกจะมีลักษณะคล้ายร่ม พบเห็นได้ตามแม่น้ำทั่วไปของบรูไน มีสรรพคุณช่วยรักษาบาดแผล หากใครแวะไปเยือนบรูไน จะพบเห็นได้จากธนบัตรใบละ 1 ดอลลาร์ ของประเทศบรูไน และในงานศิลปะพื้นเมืองอีกด้วย